มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

มูลนิธิ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

น้อมกมลภักดีมั่นนิรันดร

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร ทรงปกเกศคุ้มเกล้าชาวสยาม

ทรงเป็นแพทย์เจ้าฟ้าสง่างาม สมพระนามบิดาการแพทย์ไทย

ทรงเป็นพระโอรสพระปิยราช พระชนกนาถสองกษัตริย์นิรัติศัย

พระกิตติคุณสุนทรขจรไกล อุดมศึกษาของไทยได้รุ่งเรือง

องค์การยูเนสโกได้ยกย่อง ประกาศก้องให้ชื่อไทยได้ลือเลื่อง

พระเกียรติยศงดงามนามประเทือง บุคคลผู้ปราดเปรื่องเฟื่องสกนธ์

การสาธารณสุขทรงบำเพ็ญ ประชาราษฎร์ร่มเย็นเป็นโภคผล

ยี่สิบสี่กันยาวันมหิดล น้อมกมลภักดีมั่น...นิรันดร

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า คณะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

ความเป็นมามูลนิธิ

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าได้ทรงสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม และทรงมีพระราชศรัทธาถวายโคมไฟฟ้าขนาดใหญ่สวยงามมาก และมีโคมไฟฟ้าอีกหลายดวง ที่พระวิหารหลวงพ่อพระเสริม วัดปทุมวนาราม พร้อมทั้งได้ทรงพระกรุณาโปรดให้อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารส่วนหนึ่งของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประดิษฐานไว้ที่องค์พระสถูปเจดีย์หน้ามุก ด้านทิศตะวันออกของโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นการส่วนพระองค์ ภายหลังจากงานพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวง เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒

ด้วยเหตุผลนี้ คณะสงฆ์ ซึ่งมีพระราชวรคุณ เจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามในขณะนั้น ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดตั้งมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศ อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นที่วัดปทุมวนาราม เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนก โดยเหตุที่พระองค์ท่านได้ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจที่อำนวยประโยชน์สุขให้แก่ปวงชนชาวไทยอย่างกว้างขวางในด้านสาธารณสุข ทรงพระนามว่า "พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย" และเป็นอนุสรณ์ที่ซาบซึ้งอยู่ในความรู้สึกของผู้ที่เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย อีกทั้งยังได้เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระญาณสังวร) เป็นประธานมูลนิธิฯในขณะนั้น

มูลนิธิฯ นี้ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระนาม สมเด็จพระบรมราชชนก เป็นชื่อมูลนิธิฯว่า "มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก" และตราประจำพระองค์เป็นสัญลักษณ์ของมูลนิธิฯ ทั้งนี้ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้ง เพื่อให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลจากกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๙

วัตถุประสงค์มูลนิธิ

  • เพื่อส่งเสริมสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
  • เพื่อเทิดทูนพระเกียรติของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
  • เพื่อก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ ปูชนียสถาน ถาวรวัตถุและเสนาสนะวัดปทุมวนาราม
  • เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการปฏิบัติธรรม
  • เพื่อเผยแผ่หลักธรรมแห่งพระพุทธศาสนา ทั้งภายในและนอกประเทศ
  • เพื่อส่งเสริมเกียรติคุณผู้เสียสละและผู้ทำความดี
  • เพื่อดำเนินการกับองค์การกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์หรือร่วมมือกับองค์การกุศลอื่น เพื่อสาธารณประโยชน์
  • ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด

ภารกิจหลักมูลนิธิ

จากจุดเริ่มต้นของการจัดตั้งมูลนิธิฯ รวมถึงเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ คณะกรรมการมูลนิธิฯ ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จึงได้ร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทั้งงานทางด้านสาธารณสุข ด้านการแพทย์ ด้านสังคมสงเคราะห์ โดยวางรากฐานการปฏิบัติภารกิจ ของมูลนิธิฯ ให้ครอบคลุม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติให้สมกับที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญพระนาม มาเป็นชื่อมูลนิธิ อีกทั้งเพื่อเป็นการสำ นึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของภารกิจ หลักของมูลนิธิฯ ดังนี้

งานด้านการศึกษา

มูลนิธิฯ ให้ความสำ คัญต่อการพัฒนาเยาวชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการศึกษาทางการแพทย์ และสาธารณสุข โดยมูลนิธิจัดสรรงบประมาณปีละไม่ต่ำกว่า ๑.๕ ล้านบาท เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่นิสิตนักศึกษา สาขาแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ รวมถึงเภสัชศาสตร์ แก่ทุกมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนในสาขาวิชาดังกล่าว นอกไปจากนั้นยังมีการมอบรางวัลบัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม และบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม รวมถึงมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตที่มีผลการศึกษาดีเยี่ยม ทั้ง ๓ สาขาวิชา เป็นประจำ ทุกปี โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละสาขาวิชาเป็นกรรมการคัดเลือกและตัดสินรางวัล

งานด้านการแพทย์และการสาธารณสุข

มูลนิธิฯ จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อใช้ในการสนับสนุนงานทางด้านการแพทย์ อาทิ

- ร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ในการออกหน่วยพยาบาล เคลื่อนที่ รวมถึงการผ่าตัดรักษาตาต้อกระจกเป็นประจำทุกปี

- ร่วมกับคณะทันตแพทยศาสตร์ ๘ มหาวิทยาลัย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยนเรศวร ออกหน่วยบริการทันตกรรม ให้บริการตรวจฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน เนื่องในวันมหิดลเป็นประจำทุกปี

- มูลนิธิฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่มีการเรียนการสอนทางด้านการแพทย์ ทันตแพทย์ และ เภสัชศาสตร์ ในการออกให้ความรู้และให้บริการแก่ประชาชนในงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่มูลนิธิฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำ นวนมาก เข้าเยี่ยมชมและรับบริการ ศึกษาข้อมูลความรู้ รวมถึงการตอบปัญหาทางการแพทย์และการสาธารณสุข

งานด้านสังคมสงเคราะห์

มูลนิธิฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพชีวิตของคนในสังคม โดยได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่ง เพื่อเตรียมไว้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ โดยร่วมกับองค์กรสาธารณกุศลอื่น ๆ ที่มีเจตนารมณ์ เดียวกัน ในการมอบปัจจัย สิ่งของเครื่องใช้ หรือสิ่งจำ เป็นในชีวิตประจำ วัน นอกไปจากนั้น ในการมอบรางวัลบัณฑิต แพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม และบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม คณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัลฯ ยังได้ให้ความสำ คัญกับการทำ งานเพื่อสังคมในระหว่างการศึกษาของบัณฑิต เพื่อจะได้เป็นแบบอย่างคนดีของสังคมและสานต่อพระราชปณิธานในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

และเพื่อเป็นการร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทยมาตลอดพระชนม์ชีพ มูลนิธิฯ จึงได้จัดงาน เฉลิมพระเกียรติขึ้นเป็นประจำ ทุกปี เพื่อให้ประชาชนคนไทย ได้รับทราบและน้อมนำ พระอนุศาสน์มาเป็นหลักคิด หลักปฏิบัติเพื่อดำ รงตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม รวมถึงเพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธานให้คงอยู่สืบไป


คณะกรรมการบริหารมูลนิธิ

(ชุดแรก)

ประธานกรรมการ

1. สมเด็จพระญาณสังวร

รองประธานกรรมการ

2. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

3. พระธรรมดิลก

4. พระราชวรคุณ

5. นายสัญญา ธรรมศักด

6. ม.ล.ทวีสันต์ ลดาวัลย์

7. นายกัลย์ อิศรเสนา ณ อยุธยา

8. พล.อ.นวล จันทร์ตรี

9. พล.ต.อ.ณรงค์ มหานนท์

10. ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร

กรรมการ

11. พระญาณวิริยาจารย์

12. พระกิตติสารกวี (พระธรรมธัชมุนี)

13. พระครูปทุมธรรมรัตน์

14. พระมหาเสงี่ยม สุจิณโณ (พระครูสุจินธรรมาจารย์)

15. พระชาลี อุชชลิโต

16. พระมหาถาวร จิตฺตถาวโร

17. ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์

18. นายมารุต บุนนาค

19. นายถาวร พรประภา

20. นายดำรงค์ กฤษณามระ

21. นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์

22. นายเข็มทอง โอสถาพันธ์

23. ร้อยตรีรักษา โภคาสถิตย์

24. นางสุวภีร์ ธรรมวัฒนะ

25. นายวานิช ไชยวรรณ

กรรมการผู้จัดการ

26. นายรัตน์ ศรีไกรวิน

กรรมการรองผู้จัดการ

27. นายชรินทร์ คำยินดี

กรรมการเหรัญญิก

28. นางประภา วิริยะประไพกิจ

กรรมการผู้ช่วยเหรัญญิก

29. นายชวลิต ไหลรินทร์

กรรมการเลขานุการ

30. พระครูวิสุทธิญาณสุนทร (พระเทพญาณวิศิษฏ์)

31. นายพจน์ เตชะอำ นวยวิทย์

กรรมการผู้ช่วยเลขานุการ

32. นายโกวิท โพธิตะนัง